เทคโนโลยี HDR จะนำเสนอรายละเอียดและสีในวิดีโอเพื่อการถ่ายทอดที่แม่นยำกว่าเดิม ดังนั้น HDR จึงกลายเป็นสิ่งสำคัญที่มืออาชีพในอุตสาหกรรมสื่อและผู้ที่ชื่นชอบภาพและเสียงต่างใฝ่หา ในฐานะผู้ผลิตสินค้าที่มุ่งเน้นการคิดค้นเทคโนโลยีใหม่ ๆ อยู่เสมอเพื่อคุณภาพของภาพที่ดีขึ้น BenQ ได้พัฒนาเทคโนโลยี HDR-PRO สุดพิเศษ ซึ่งจะใช้ในการสร้างโปรเจคเตอร์ที่แสดงถึงสีที่แม่นยำและไดนามิกคอนทราสต์ ทำให้ผู้ใช้งานได้เพลิดเพลินไปกับประสบการณ์ภาพในโรงภาพยนตร์ที่สื่อจากผู้สร้างด้วยสีที่ถูกต้องและคุณภาพของภาพที่ดี

High Dynamic Range (HDR) คือ เทคโนโลยีมาตรฐานที่มาพร้อมกับไดนามิกเรนจ์ที่สูงขึ้น ซึ่งจะทำให้ได้ภาพเสมือนจริงที่สามารถเก็บรายละเอียดทั้งแสงและเงา รวมถึงความสว่างและความมืดของภาพได้อย่างครบถ้วนสมบูรณ์ ให้ภาพที่ใกล้เคียงกับที่ตามนุษย์มองเห็น

ในบทความนี้ เราได้แนะนำคำจำกัดความพื้นฐานของ HDR และได้อธิบายเกี่ยวกับการถ่ายทำและขั้นตอนหลังการถ่ายทำสำหรับวิดีโอ HDR ในบทความก่อนหน้าเราได้พูดถึงว่ามี HDR ที่แท้จริงสำหรับโปรเจคเตอร์หรือไม่ และเราได้แสดงให้เห็นว่า แม้ว่าความสว่างสูงสุดของโปรเจคเตอร์จะมีจำกัด แต่ด้วยการพัฒนาเทคโนโลยีล่าสุด ผู้ผลิตพยายามให้ผู้ใช้งานได้รับประสบการณ์การรับชมที่ใกล้เคียงกับการดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากขึ้นอย่างไร

นอกเหนือจากจอคอมแล้ว BenQ ยังใช้ความพยายามอย่างมากในการพัฒนาโปรเจคเตอร์ด้วยการผสานรวมซอฟต์แวร์และเทคโนโลยีฮาร์ดแวร์เข้าด้วยกันเพื่อนำเสนอภาพ HDR ที่แท้จริงซึ่งช่วยให้ผู้บริโภคสามารถดูเนื้อหาที่มีรายละเอียดมากขึ้นและคุณภาพของภาพที่ดีขึ้น

เนื่องจากอุปกรณ์แต่ละรุ่นต่างมีสเปคที่แตกต่างกันออกไป อาจทำให้สีและความสว่างไม่เป็นไปตามเนื้อหาต้นฉบับ โปรเจคเตอร์หลายรุ่นจึงมีฟังก์ชัน Color Mapping และ Tone Mapping ที่ออกแบบมาเพื่อนำเสนอภาพที่ดีที่สุดตามสเปคของแต่ละรุ่น โปรเจคเตอร์ HDR ของ BenQ ได้รับการออกแบบโดยคำนึงถึง Tone Mapping ทำให้แน่ใจว่าภาพที่ฉายทั้งหมดขึ้นอยู่กับการคำนวณที่แม่นยำและการฉายภาพที่แม่นยำโดยแสดงรายละเอียดเพิ่มเติมพร้อมช่วงไดนามิกที่มากขึ้นทั้งในพื้นที่สว่างและมืด ดังนั้นจึงสามารถนำองค์ประกอบภาพดั้งเดิมมาสู่ผู้ชมและมอบประสบการณ์การรับชมที่แท้จริงซึ่งใกล้เคียงกับการดูภาพยนตร์ในโรงภาพยนตร์มากขึ้น

เพื่อให้ Tone Mapping ทำงานได้ดียิ่งขึ้น BenQ ใช้เทคโนโลยี Dynamic Iris ด้วยเทคโนโลยี Dynamic Black™ และ Deep Dark Sealing Coating Optical Engine ที่เป็นกรรมสิทธิ์โปรเจคเตอร์ BenQ สร้างช่วงไดนามิกที่กว้างมาก ไม่ว่าฉากต้นฉบับจะสว่างหรือมืดมากผู้บริโภคจะสามารถมองเห็นวิดีโอต้นฉบับได้ชัดเจนยิ่งขึ้น

โปรเจคเตอร์ส่วนใหญ่มุ่งเน้นไปที่ประสิทธิภาพการทำงานในบริเวณที่มีแสงและมืด ในบางรุ่นก็ยอมสละภาพที่สมจริงเพื่อรักษาอัตราส่วนคอนทราสต์ให้อยู่ในขนาดที่ต้องการ Dynamic Iris จะช่วยให้โปรเจคเตอร์สามารถกำหนดค่าเอาต์พุตของการฉายภาพได้โดยการควบคุมระบบการฉายของโปรเจคเตอร์ตามเนื้อหาหรือฉากที่แตกต่างกัน ดังนั้นจึงสามารถปรับโทนแสงของฉากให้เหมาะสมและทำให้ใกล้เคียงกับวิสัยทัศน์ดั้งเดิมของผู้กำกับมากขึ้น

ความสว่างของโปรเจคเตอร์ HDR แตกต่างจากจอคอม HDR ตรงที่ค่าความสว่างไม่ได้ขึ้นอยู่กับค่าคงตามที่สัญญาณกำหนด แต่จะแตกต่างกันไปขึ้นอยู่กับระยะห่างระหว่างโปรเจคเตอร์และหน้าจอ ขนาดหน้าจอ และวัสดุของหน้าจอ ดังนั้นโปรเจคเตอร์ HDR ของ BenQ จึงให้ค่าความสว่าง HDR ที่แนะนำแตกต่างกัน 5 ค่า สำหรับขนาดหน้าจอโฮมโปรเจคเตอร์ทั่วไป 5 ขนาด* นอกจากนี้ยังมีการควบคุมความสว่างเพื่อให้ผู้ใช้สามารถเปลี่ยนระดับความสว่างตามขนาดหน้าจอเพื่อให้ได้ประสบการณ์การรับชมที่ดีที่สุด (ขนาดหน้าจอการฉายในบ้านทั่วไปคือ 80”, 100”, 120”, 150” และ 200”)

นอกจากนี้เทคโนโลยี HDR ไม่ได้มุ่งเน้นเพียงแค่การให้ความสว่างสูงสุดเพื่อแสดงช่วงไดนามิกที่มากขึ้น แต่ให้ตัวเลือกความสว่างที่เพียงพอและสะดวกสบายแทนเพื่อหลีกเลี่ยงความเมื่อยล้าของดวงตาในระยะยาว คุณสมบัตินี้ยังนำเสนอภาพที่มีรายละเอียดครบถ้วนและสมจริงในแบบที่เหมาะที่สุดสำหรับดวงตาของมนุษย์

ด้วยความสว่าง HDR, Tone Mapping และ Dynamic Iris ผู้ผลิตจะสามารถนำเสนอวิดีโอที่มีช่วงไดนามิกมากขึ้น เช่นช่วยให้โปรเจคเตอร์สามารถแสดงความแตกต่างระหว่างดวงดาวกับความมืดและพื้นที่ว่างเปล่าในฉากระหว่างดวงดาวแบบ Sci-fi ทำให้ผู้ชมสามารถดื่มด่ำกับจักรวาลได้อย่างเต็มที่และได้รับประสบการณ์ที่ใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์

ด้วยช่วงไดนามิกที่มากขึ้นทำให้เห็นรายละเอียดอย่างชัดเจน: พื้นผิวของผิววัสดุโลหะ ร่องรอยของหน้าผาหินและเส้นผมของตัวละคร ฯลฯ เทคโนโลยี HDR-PRO ที่โดดเด่นของ BenQ จะไม่ทำให้พื้นที่มืดนั้นมืดเกินไปเพื่อที่จะไล่ตามช่วงไดนามิกที่สูงขึ้น สิ่งสำคัญคือการไล่ระดับสีที่เรียบเนียนของคอนทราสต์และภาพโดยรวมเพื่อมอบสิ่งที่ดีที่สุดให้กับผู้ชม

ขอบเขตสีที่กว้างก็สำคัญสำหรับ HDR เช่นกัน ดังนั้น BenQ จึงพัฒนาเทคโนโลยีการจัดการสี CinematicColor™ ของตนเอง ที่ไม่เพียงแต่มีพื้นที่สีกว้างตามที่กำหนดโดยอุตสาหกรรมภาพยนตร์ แต่ยังมีกลไกการปรับเทียบแบบแมนนวลที่เป็นเอกสิทธิ์เฉพาะ เพื่อนำเสนอภาพที่มีสีความอิ่มตัวความสว่างและอุณหภูมิสีที่ถูกต้อง ฯลฯ ซึ่งสามารถเข้าถึง Rec ได้ 100% ช่วงสี 709 พร้อม Delta E <3 และยังเป็นไปตามข้อกำหนดของช่วงสีกว้างตามโรงภาพยนตร์ DCI-P3 ฟังก์ชั่น Color Mapping ของโปรเจคเตอร์ยังสามารถปรับสีของเนื้อหา HDR โดยอัตโนมัติให้เป็นสีที่สมบูรณ์และแม่นยำที่สุด

เพื่อนำเสนอเนื้อหาที่มีคุณภาพของภาพที่สูงขึ้น ทีวีหรือจอภาพมักได้รับการพัฒนาในสามด้าน ได้แก่ ความละเอียด True 4K, ขอบเขตช่วงสีกว้าง และ HDR ทั้งหมดนี้เพื่อแสดงภาพที่มีความละเอียดสูง คอนทราสต์สูง และสีที่ถูกต้อง

โดยปกติแล้วโปรเจคเตอร์ BenQ True 4K HDR จะมีความละเอียด 4K ที่ 8.3 ล้านพิกเซลและยังรองรับช่วงสีกว้าง DCI-P3 คุณลักษณะทั้งสองนี้มีความสำคัญและมักจะมาพร้อมกันเพื่อการนำเสนอภาพ HDR เช่นเลนส์ 4K ระดับไฮเอนด์ที่ออกแบบมาเป็นพิเศษบนโปรเจคเตอร์จะมาพร้อมกับชิ้นส่วนกระจกทั้งหมดที่ให้ประโยชน์จากรูรับแสงขนาดใหญ่และการกระจายตัวต่ำ ทำให้ภาพสว่างและชัดเจน เทคโนโลยี HDR-PRO เอกสิทธิ์เฉพาะของ BenQ ไม่เพียงแต่แสดงช่วงสีที่กว้างโดยละเอียดมากขึ้นและใกล้เคียงกับสีดั้งเดิมมากขึ้นเท่านั้น แต่ยังแสดงภาพที่แท้จริงด้วยช่วงไดนามิกที่สูงขึ้นในบริเวณที่สว่างและมืด

ปัจจุบัน ผู้ผลิตโปรเจคเตอร์รายใหญ่นั้นมุ่งเน้นการพัฒนาอุปกรณ์ HDR ด้วยทีมงานเทคโนโลยีที่ยอดเยี่ยม BenQ ทุ่มเทเพื่อให้ได้ภาพที่สมจริงที่สุดในแง่ของความสว่าง ความคมชัด และการแสดงสี BenQ ช่วยให้ผู้ชมเพลิดเพลินไปกับประสบการณ์การรับชมที่คุณภาพใกล้เคียงกับโรงภาพยนตร์ ไม่ว่าจะรับชมจากที่บ้านหรือที่ใดก็ตาม