รู้จักกับเทคโนโลยี Cinematic Color

สีสันที่แท้จริงเท่านั้นจึงจะสามารถสื่อถึงความรู้สึกได้อย่างเต็มที่

สีสันที่แท้จริงดุจภาพจากต้นฉบับจะเป็นตัวจุดประกายความรู้สึกไม่ว่าจะเป็นเรื่องเศร้า รักโรแมนติก หรือสยองขวัญ โปรเจคเตอร์ของเบ็นคิวถูกผลิตขึ้นมาพร้อมกับความมุ่งมั่นของเราที่จะนำเสนอสีสันที่แท้จริงเพื่อสื่อความรู้สึกไปให้ถึงผู้ชม วิศวกรที่ได้รับการรับรองจากทั้งTHX และISF พร้อมที่จะนำเสนอการแสดงค่าสีที่ครอบคลุมตามมาตราฐาน100% Rec.709 โปรเจคเตอร์ระดับพรีเมียมของเราสามารถแสดงค่าได้ตามมาตราฐานภาพยนตร์ DCI-P3 มาพร้อมรายงานการปรับเทียบค่าสี(Calibration Report) และยังมีค่า Delta E* ที่ต่ำกว่าสามให้สีสันดุจเดียวกับสีบนแผ่นฟิลม์ฮอลลีวูด

ความเที่ยงตรงของสีสำคัญอย่างไร

ช่วงสี 100% Rec.709 และความสัมพันธ์กับแหล่งกำเนิดแสง

นำเสนอสีสันที่แท้จริงผ่านการเคลือบสีที่ละเอียดระดับ Nanometer-Level

มาพร้อมรายงานการเทียบปรับระดับสี Calibration Report

โปรเจคเตอร์ BenQ

อื่น ๆ

Delta E และความแตกต่างในการแสดงค่าสี

Delta E เป็นการคำนวนเปรียบเทียบระหว่างสีจริงที่กำหนดไว้เป็นมาตราฐานกับสีที่โปรเจคเตอร์สามารถเลียนแบบและฉายออกมาตามระบบการวัดอัตราส่วนแบบ L*a*b* โดยจะมีค่าที่ต่ำที่สุดที่สายตาของมนุษย์จะมองเห็นได้อยู่ที่ 1.0

ความเที่ยงตรงของสีสำคัญอย่างไร

สายตาของมนุษย์มองเห็นสีได้แตกต่างกัน สีแดงในสายตาของคนบางคนอาจถูกมองเห็นเป็นสีชมพู มาตราฐาน Rec. 709 ถูกสร้างขึ้นมาโดย ITU (International Telecommunication Union) สำหรับอุตสาหกรรมทีวีและภาพยนตร์ เพื่อที่จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าอุปกรณ์ HD เช่น DVDs และ Blu-rays ได้ถูกตั้งค่าสี ความละเอียดและเฟรมเรทภายใต้มาตราฐานเดียวกัน

มาตราฐานสี Rec.709

มาตราฐานสี Rec.709 ใช้สีแดง เขียว และฟ้า ตลอดจนถึงความสว่างD65 (6500k) สำหรับพื้นที่สีขาวเพื่อสร้างมาตราฐานของสีสำหรับอ้างอิงเมื่อต้องมีการสร้างช่วงสีและระดับความสว่างให้อยู่เฉดเดียวกัน

พื้นที่สี DCI-P3

DCI-P3 เป็นช่วงสีมาตราฐานสำหรับผลิตภาพยนตร์ดิจิตอลของอุตสาหกรรมภาพยนตร์ในสหรัฐอเมริกา หรือที่มักจะเรียกกันในนามของ "Wide Gamut" โดยช่วงสีดังกล่าวจะกว้างกว่า sRGB / Rec.709 ถึง26% DCI-P3ได้รับการคาดหวังว่าจะเป็นที่ยอมรับในระบบโทรทัศน์และโฮมซีนีม่าว่าเป็นก้าวต่อไปสำหรับการนำมาซึ่งมาตราฐานสีที่กว้างยิ่งขึ้นจนถึง Rec. 2020

D65: มาตรฐานความสว่างในช่วงกลางวัน

ค่าความสว่าง D65 ถูกนำมาประยุกต์ใช้กับมาตราฐานสี Rec. 709 แทนจุดสีขาว โดย International Commission on Illumination (CIE) ค่าดังกล่าวจะแสดงค่าแทนแสงสว่างในเวลากลางวันโดยมีอุณหภูมิสีอยู่ที่ประมาณ6500 K.

เทคโนโลยีแหล่งกำเนิดแสงชั้นนำพร้อมการวิเคราะห์รูปแบบคลื่น

ด้วยเทคโนโลยีแหล่งกำเนิดแสงชั้นนำ CinematicColor™ สร้างสีสรรค์ที่บริสุทธิ์เก็บทุกรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับการกำเนิดภาพ ทีมวิจัยของเบ็นคิวประยุกต์ใช้เทคโนโลยีกำเนิดแสงใหม่ที่มาพร้อมการวิเคราะห์รูปแบบคลื่นอย่างเข้มงวดเพื่อให้มั่นใจว่าอุณหภูมิของสีที่ฉายออกมาจะตรงกับช่วงสีที่ต้องการตามมาตราฐาน Rec. 709

การประมวลผลต้นฉบับ

Rec. 709

การประมวลผลโหมดความสว่างสูง

Zero Light Overflow ด้วยโครงสร้างOpto-Mechanical

แสงเป็นปัจจัยสำคัญในการสร้างภาพที่สวยงาม แต่ในขณะเดียวกันก็เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้สีของภาพผิดเพี้ยนไป ทีมวิจัยของเบ็นคิวได้ขจัดปัญหาแสงที่เกินออกมาทำให้พื่นที่สีดำมืดสนิทสามารถเพิ่มค่าANSI contrast และทำให้ภาพดูมีมิติ ด้วยระบบที่ทำให้มั่นใจได้ว่าแสงทั้งหมดจากแหล่งกำเนิดแสงจะตกกระทบ DMD chip และเลนส์ โครงสร้างopto-mechanical ใช้สีชนิดพิเศษที่ทนต่อความร้อนประกอบกับงานเคลือบที่ประณีตให้เลนส์สามารถครอบคลุมช่วงสีตามมาตราฐานของ Rec. 709

มาทำความรู้จักกับคอนทราสต์

ความคอนทราสต์ที่เห็นได้ระหว่างการชมภาพยนตร์ ถูกสร้างขึ้นจากชุดเฟรมที่ประกอบขึ้นมาจากนำเฟรมเดียวหลายๆเฟรมมาต่อกัน ANSI Intra-Image Contrast เป็นการวัดค่าความคอนทราสต์ของแต่ละชุดเฟรม ค่า ANSI ที่สูงจึงเป็นตัวบ่งบอกถึงความสามารถที่ยอดเยี่ยมในการแสดงถึงความมีมิติและระยะชัดลึก ทั้งนี้จะต่างจากอัตราความคอนทราสต์แบบ FOFO เพราะในการรับชมแบบปกตินั้นเป็นไปได้ยากที่สีบนจอจะสลับระหว่างขาว และดำอย่างชัดเจน

โปรเจคเตอร์ DLP ของ BenQ

โปรเจคเตอร์ที่ไม่ใช่ DLP

วงล้อสี RGBRGB

วงล้อสีเป็นส่วนประกอบที่สำคัญ ที่มีผลต่อการแสดงค่าสีของเครื่องโปรเจคเตอร์แบบ DLP เทคโนโลยี CinematicColor™ ตระหนักถึงความสำคัญตรงจุดนี้ และมุ่งสร้างวงล้อสีที่สมบูรณ์แบบ โดยวงล้อสีที่ใช้จะต้องผ่านการออกแบบและตรวจเช็ค ด้วยค่าความละเอียดระดับ Nanometer-Level ผ่านการทดสอบมุมและการเคลือบสีบนวงล้อมากกว่า 20 รายการ เพราะความคลาดเคลื่อนเพียงเล็กน้อยจะส่งผลกระทบต่อสีที่ฉายออกไป แต่ละวงล้อถูกเคลือบทับด้วยสีที่มีความบริสุทธิ์สูง ทำให้มั่นใจว่าภาพที่ได้จะเป็นไปตามมาตราฐาน Rec. 709 และแสดงสีสันดุจเดียวกับสีบนแผ่นฟิลม์ฮอลลีวูด

Rec. 709

อื่น ๆ

ค่าความสว่าง ยิ่งสว่างมากยิ่งดีจริงหรือ?

สำหรับโปรเจคเตอร์ที่ใช้ฉายในบรรยากาศแบบโรงภาพยนตร์ ค่าความสว่างที่มากจนเกินไปจะส่งผลให้ค่าความคอนทราสต์และความมืดลดลง ในความเป็นจริงแล้วค่าความสว่างที่เหมาะสมขึ้นกับบรรยากาศของแสงรอบตัว ระยะฉาย ความสบายตา และประสิทธิภาพในการรับชม ค่าความสว่างระหว่าง 12-22 fL (foot-lambert)เป็นระดับที่เหมาะสมตามการวิจัยของ Society of Motion Picture & Television Engineers (SMPTE) และได้รับการยอมรับจากโรงภาพยนตร์ทั่วโลก สำหรับโฮมโปรเจคเตอร์ที่ใช้กับจอภาพที่มีเส้นผ่านศูนย์กลางขนาด 120 นิ้ว และค่าความสามารถในการสะท้อนแสงอยู่ที่1.0 Gain Screen ค่าความสว่างที่เหมาะสมจะอยู่ที่1000 ถึง 2000 ANSI ตามมาตราฐานการวัดค่าความสว่าง

มาพร้อมรายงานการเทียบปรับระดับสี Calibration Report

โปรเจคเตอร์ที่มาพร้อมเทคโนโลยี CinematicColor™ทุกตัวผ่านการตรวจเช็คและปรับจูนให้ทุกการแสดงผลให้อยู่ในระดับที่เหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นอุณหภูมิสีที่ D65 ค่าแกมม่า ระดับความมืด ระดับความสว่าง เฉดสีเทา สีRGBCMY เฉดและความเข้มข้นของสี ตลอดจนถึงความสามารถในการแสดงผลผ่านจอภาพต่างๆให้เป็นไปตามมาตราฐานของITU-R Rec. 709 เราเก็บข้อมูลรายงานการเทียบปรับระดับสีของทุกเครื่อง และเป็นเพียงผู้ผลิตระดับอุตสาหกรรมเพียงเจ้าเดียวที่ดำเนินรอยตามมาตราฐานระดับสูงทั้งในด้านช่วงสี (Color Gamut) และ แกมม่า (Gamma Calibration) ให้อยู่ในระดับที่เกินกว่ามาตราฐาน Rec.709

*โปรเจคเตอร์ CinePro และ CinePrime series มีรายงานการเทียบปรับระดับ (Calibration Report) ยกเว้น X12000, W8000, W3000

การเพิ่มประสิทธิภาพซอฟต์แวร์

การควบคุมคุณภาพสายการผลิต

การเปรียบเทียบ

*โปรเจคเตอร์ CinePro และ CinePrime series มีรายงานการเทียบปรับระดับ (Calibration Report) ยกเว้น X12000, W8000, W3000
**ISFccc®Certification ยกเว้น W1090, W1050

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้จักกับเทคโนโลยี DLP

วิธีเลือกโปรเจคเตอร์สำหรับโรงหนังในบ้าน

รู้จักกับเทคโนโลยี Cinematic Color

Strictly necessary cookies

Functional cookies

Performance cookies and advertising cookies

บทความที่เกี่ยวข้อง

รู้จักกับเทคโนโลยี DLP

วิธีเลือกโปรเจคเตอร์สำหรับโรงหนังในบ้าน

รู้จักกับเทคโนโลยี Cinematic Color