5 เหตุผลที่ควรใช้จอคอมถนอมสายตา

เรามักจะหลีกเลี่ยงแสงกะพริบจากหน้าจอ ซึ่งหน้าจอ LCD ทั่วไปจะกะพริบในอัตรา 250 ครั้งต่อวินาทีซึ่งมองไม่สามารถมองเห็นด้วยตาเปล่า หากมีการใช้งานจอภาพเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ดวงตาของคุณจะรับรู้การกะพริบประมาณ 5.8 ล้านครั้ง การเปิดรับแสงกะพริบที่เกิดจากหน้าจอเป็นเวลานานอาจส่งผลกระทบต่อสุขภาพตาของคุณ อาการเมื่อยล้าของดวงตามักเกิดขึ้นบ่อยในนักเรียนและคนทำงานที่ต้องใช้งานคอมพิวเตอร์ในชีวิตประจำวัน สิ่งนี้ส่งผลต่อความสามารถในการเรียนรู้และการทำงานของพวกเขาเป็นอย่างมาก

จอภาพของ BenQ มาพร้อมกับเทคโนโลยี Flicker-Free ลดการกะพริบของหน้าจอซึ่งได้รับการรับรองจากสถาบันมาตราฐานระดับโลก TÜV Rheinland ที่จะช่วยลดความเมื่อยล้าของดวงตาและการระคายเคืองบนดวงตาจากการมองหน้าจอเป็นเวลานานโดยการกำจัดสาเหตุที่ทำให้จอเกิดการกะพริบ เพื่อที่ผู้ใช้จะได้ใช้จอภาพโดยไม่กระทบต่อสุขภาพดวงตาหรือคุณภาพของการแสดงผล

เราค้นพบโลกผ่านการมีอยู่ของแสงซึ่งแบ่งออกเป็นแสงที่มองเห็นด้วยตาเปล่า (Visible Light 420 นาโนเมตร ~ 780 นาโนเมตร) และ
แสงที่มองไม่เห็นด้วยตาเปล่า (Invisible Light แสงอินฟราเรด> 780 นาโนเมตร หรือ แสงอัลตราไวโอเลต <420 นาโนเมตร)

เราอยู่ในโลกที่มีแสงจากหน้าจอและเป็นเรื่องยากที่จะหลีกเลี่ยง เมื่อแสงที่มองเห็นด้วยตาเปล่าเข้าสู่เรตินาอาจทำให้เกิดความเสียหายต่อดวงตา แสงสีฟ้า (Blue Light) ซึ่งเป็นแสงที่มองเห็นด้วยตาเปล่าพลังงานสูงถือเป็นอันตรายต่อดวงตาโดยเฉพาะ เมื่อเราใช้จอภาพเพื่อดูวิดีโอ ทำการบ้าน หรือเล่นวิดีโอเกมเป็นเวลาหลายชั่วโมง แสงสีฟ้าที่เข้าตาอาจส่งผลกระทบต่อจอประสาทตาและนำไปสู่โรคที่เกี่ยวข้องกับดวงตาในที่สุด แสงสีฟ้าสามารถยับยั้งการผลิตฮอร์โมนเมลาโทนินที่กระตุ้นการนอนหลับส่งผลให้เกิดความผิดปกติในการนอนหลับ

BenQ ได้ออกแบบเทคโนโลยีสองประเภทเพื่อปกป้องสุขภาพดวงตาของเด็กและผู้ใหญ่ เทคโนโลยี Low Blue Light จะกำจัดแสงสีน้ำเงิน (420 ~ 480 นาโนเมตร) และเทคโนโลยี Low Blue Light Plus จะกรองรังสีที่เป็นอันตราย (420 ~ 455 นาโนเมตร) เพื่อลดความเสียหายในขณะที่รักษาคุณภาพของภาพโดยไม่ให้สีเปลี่ยนเป็นเฉดสีเหลือง

เมื่อเราใช้จอภาพเป็นเวลานาน อาจลืมคำนึงถึงแสงโดยรอบที่เป็นปัจจัยสำคัญและมีผลต่อประสบการณ์การรับชมของเรา ความแตกต่างของแสงโดยรอบและแสงจากจอคอมอาจทำให้ปวดตาได้ ในสภาพแวดล้อมที่สว่าง ตาต้องทำงานหนักขึ้นเพื่อหลีกเลี่ยงแสงจ้าที่เกิดจากการสะท้อน ในห้องที่มีแสงสลัวดวงตาต้องใช้พลังงานมากขึ้นเพื่อโฟกัสไปที่จอแสดงผลที่สว่างมาก เมื่อใช้ในเวลานานเราอาจปวดตาหรือมีปัญหารุนแรงเช่นปวดหัวและตาพร่ามัว

เทคโนโลยี Brightness Intelligence (B.I. Tech.) และเทคโนโลยี Brightness Intelligence Plus (B.I.+ Tech.) ออกแบบโดย BenQ สามารถปรับความสว่างของจอโดยอัตโนมัติตามสภาพแวดล้อมโดยรอบผ่านเซ็นเซอร์วัดแสงเทคโนโลยี B.I.+ Tech. สามารถตรวจจับความสว่างโดยรอบได้ตลอดทั้งวันในการหาอุณหภูมิสีที่แตกต่างกันและปรับความสว่างโดยอัตโนมัติเพื่อมอบประสบการณ์การรับชมที่สบายตาที่สุด

BenQ ออกแบบมาให้ขาตั้งสามารถปรับความสูงเพิ่มได้อย่างน้อย 110 มม.ช่วยให้ผู้ใช้ค้นหามุมมองที่ดีที่สุดสำหรับการทำงานที่สะดวกสบาย ทั้งนี้ยังมีการปรับความเอียงของหน้าจอซ้ายขวาและการปรับหน้าจอแนวตั้ง ซึ่งเป็นโซลูชั่นที่สมบูรณ์แบบสำหรับนักเรียนในวัยเติบโตเพื่อความสบายในการรับชมที่ดีที่สุด

BenQ ได้พัฒนาโหมด Color Weakness ที่ปรับแต่งสีเพื่อให้มีมุมมองสีที่ดีขึ้นโดยการเพิ่มโทนสีและปรับแต่งฟิลเตอร์สีตามการทดลองใช้ของผู้ใช้ที่มีอาการตาบอดสี จุดอ่อนของสีที่พบบ่อยที่สุดคือการขาดสีแดง (หรือ protanomaly) และการขาดสีเขียว (deuteranomaly) BenQ ได้นำเสนอฟิลเตอร์สีแดงและฟิลเตอร์สีเขียวสำหรับการขาดสีแดงและเขียว ด้วยโหมด Color Weakness ของ BenQ ผู้ที่มีอาการตาบอดสีสามารถถอดรหัสแผนภูมิวงกลมสถิติและรูปภาพได้อย่างง่ายดายดังนั้นจึงเพลิดเพลินไปกับมุมมองที่มีเฉดสีที่แตกต่างได้และมุมมองสีที่น่าประทับใจ