ราคา จำนวน

BenQ ScreenBar Halo สุดยอดนวัตกรรมแห่งแสงสว่าง เพิ่มประสิทธิภาพให้คนยุคใหม่บนโต๊ะทำงาน

ดูทั้งหมด

BenQ ScreenBar Halo สุดยอดนวัตกรรมแห่งแสงสว่าง เพิ่มประสิทธิภาพให้คนยุคใหม่บนโต๊ะทำงาน

จอเกมมิ่งแตกต่างจากจอมอนิเตอร์แบบปกติอย่างไร?


เรามักจะมีคำถามว่าทำไมจอเกมถึงได้รับความนิยมมากขึ้นเรื่อยๆ อาจจะเป็นเพราะว่าคุณกำลังใช้จอมอนิเตอร์แบบปกติซึ่งไม่เอื้ออำนวยต่อความชอบในการเล่นเกมของคุณเท่าไหร่ หรือ คุณอาจจะใช้จอเกมอยู่แล้วแต่ต้องการซื้อจอใหม่ ทั้งนี้คุณอาจจะกำลังพิจารณาว่าจะซื้อจอเกมหรือจอปกติที่ราคาถูกกว่า ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงเหตุผลว่าทำไมจอเกมจึงแตกต่างจากจอปกติ สิ่งที่ควรคำนึงในการเลือกซื้อจอเกม และ ข้อมูลทั่วไปที่ทำให้จอเกมแตกต่างกับจออื่นๆ 

เรียนรู้เบื้องต้น


เช่นเดียวกับหลายสิ่งในชีวิต คอนเซ็ปของจอเกมคือการเปรียบเทียบกับสิ่งที่คล้ายคลึงกัน กล่าวคือการเปรียบเทียบจอเกมกับจอปกติทำให้เห็นถึงความแตกต่าง จอปกติมีไว้เพื่อใช้งานทั่วไปซึ่งรวมถึงใช้เล่นเกมและแต่งภาพ แต่บางครั้งอาจทำให้คุณรู้สึกเหมือนขาดอะไรไป จอปกตินั้นถูกออกแบบมาเพื่อใช้งานทั่วไปหรืองานในออฟฟิศเช่นเขียนงานใน Microsoft word, การท่องเว็ป, การสตรีมวิดีโอ, การเล่นเกมทั่วไป และอื่น ๆ หากคุณต้องการเพลิดเพลินกับการเล่นเกมและสัมผัสกับทุกสิ่งที่มีอยู่ในเกมล่าสุด คุณควรมองหาคุณสมบัติเฉพาะที่ทำให้จอเกมแตกต่างไปจากจอปกติ 


จอปกติ (ซึ่งอาจรวมถึงจอที่คุณใช้อ่านบทความนี้อยู่) จะมาพร้อมราคาที่ย่อมเยา แต่เมื่อคุณลองใช้มันเล่นเกมจะพบปัญหาเช่น ภาพฉีกขาด input lag และภาพเงา ซึ่ทำให้ประสบการณ์การเล่นเกมของคุณไม่เพลิดเพลินเท่าที่ควร ข้อมูลเพิ่มเติมด้านล่างจะทำให้คุณได้เรียนรู้ว่าการลงทุนเพื่อจอเกมจะให้คุณได้รับประสบการณ์อีกขั้นหนึ่งอย่างไร

ยิ่งตอบสนองเร็วยิ่งสร้างความสนุก


อัตราการตอบสนองหรือ Response time มักจะอยู่ในข้อมูลสเปคจอเกมทุกรุ่น ความเร็วของการรีเฟรซนั้นมักวัดกันเป็นมิลลิวินาที ผู้ผลิตมักทดสอบอัตราความเร็วของการตอบสนอง ซึ่งในจอเกมนั้นค่าที่ใกล้ยิ่งใกล้เลขศูนย์จะยิ่งดี เช่น 1ms ถึง 5ms จะเป็นค่าที่อยู่ในระดับดี แต่จอปกติส่วนใหญ่จะตอบสนองช้า ซึ่งไม่เหมาะแก่การเล่นเกม หากอัตราการตอบสนองไม่ถูกระบุอยู่ในข้อมูลสเปค คุณไม่ควรซื้อจอนั้นเพราะมันไม่เหมาะแก่การใช้งานเล่นเกม อัตราการตอบสนองที่ช้าจะสามารถสร้างความหน่วง ซึ่งรวมถึงภาพสะดุด ภาพช้าและภาพเงา

อัตราการรีเฟรซที่ไม่สะดุด


อีกสิ่งหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้กับ response time คือ refresh rate ที่นับจำนวนครั้งของอัตราการอัพเดทภาพบนหน้าจอต่อวินาทีมีหน่วยเป็น hertz (Hz) ในการเล่นเกม ขั้นต่ำที่รับได้คือ 60Hz แต่คุณควรมองหาจอที่มีค่าอย่างต่ำ 100Hz เพื่อการเล่นที่ไม่สะดุด refresh rate ที่ไวนั่นเหมาะกับเกมเมอร์ที่เน้นเล่นเกมแบบ FPS และแอคชั่นที่ต้องใช้การรีดเฟรมเรทขั้นสูง เพราะหากมี refresh rate ที่ต่ำจะมีผลให้ความลื่นไหลในการลดลง จอเกมรุ่น EX2780Q ที่มาพร้อมกับ refresh rate หรือการปรับค่าเฟรมเรท 144Hz ซึ่งมากพอที่จะทำให้การเล่นเกมเป็นไปอย่างไหลลื่น ทั้งนี้ refresh rate ในจอเกมมีให้เลือกได้สูงถึง 240Hz


ความละเอียด หรือ  resolution เป็นปัจจัยที่ทำให้ค่าเฟรมเรทลดลง ในปี 2019-2020 มีแค่เกมที่มีความละเอียด 1080p & 1440p ที่สามารถมีค่า response time มากกว่า 100Hz และด้วยเทคโนโลยี 4K (2160p) ที่ท้าทายค่ากราฟฟิกมากขึ้นเนื่องจากมีการจำกัด 100 เฟรมต่อวินาที แต่อาจจะมีการเปลี่ยนไปในอนาคต


จอ4K ที่มาพร้อมราคาที่น่าดึงดูดนั้นอาจจะมาพร้อมกับ panel แค่ 30Hz และมักจะไม่เหมาะแก่การเล่นเกม ซึ่งเป็นข้อที่คุณควรระวัง ในทางเดียวกัน คุณควรมองหาเทคโนโลยีอย่าง FreeSync จาก AMD และ G-Sync จาก NVIDIA เพราะทั้งสองนี้จะช่วยให้กราฟิกการ์ดหรือคอนโซลซิงค์ไปกับจอเกม และไม่ทำให้เกิดปัญหาภาพฉีกขาด ซึ่งเป็นปัญหาที่มักพบในจอปกติที่่พยายามจะรันเกมที่สปีดของเกมสูงกว่าสปีดของ panel ทำให้ภาพออกมาไม่สมบูรณ์

ยิ่งการประมวลผลน้อยยิ่งดี


จอปกติจะถูกออกแบบมาเพื่อตอบทุกโจทย์และดูเหมือนว่าจะเป็นคำตอบที่ดีที่สุดในทุกด้าน แต่สำหรับการเล่นเกมนั้น จอปกติมักจะไม่ใช่คำตอบที่เหมาะ ยิ่งไปกว่านั้นจอรุ่นที่มีราคาถูกมักจะมาพร้อมการประมวลผลแบบ fixed image ที่ไม่สามารถปรับเปลี่ยนได้ และทุกครั้งที่มีการแสดงภาพจะทำให้ภาพหน่วงเพราะเวลาที่ฮาร์ดแวร์ของเกมส่งสัญญาณมาที่เครื่องของจอคุณนั้นไม่ได้เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วเท่าที่ควร นอกจากนี้ฟีเจอร์อื่น ๆ เช่นการปรับความคมของภาพ, ลดจุดรบกวนของภาพ, ปรับความมืด, โหมดดูหนัง และโหมดภาพยนตร์ ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการหน่วง นั่นเป็นสิงที่ดีหากจอได้ถูกใช้เพื่อการดีไซน์ หรือ ดูหนัง แต่ไม่ใช่สำหรับการเล่นเกม เพราะการเล่นเกมต้องใช้ panel ที่เร็วและค่าสูงเพื่อที่จะรันเกมได้อย่างไหลลื่น 


หาก input lag มีค่าเกิน 40ms จอปกติจะไม่สามารถใช้เล่นเกมได้ หากต่ำกว่า 25ms ก็อาจจะใช้ได้แต่ไม่เร็วเท่าที่ควร เพียงคุณได้ลองใช้ก็จะทราบว่าจอเหล่านั้นไม่เหมาะแก่การเล่นเกมเพราะเกิดปัญหาภาพช้าและหน่วงบ่อยครั้งระหว่างการเล่น ปัญหานี้พบได้ทั่วไปในจอแบบปกติ


จอเกมนั้นจะมาพร้อมฟีเจอร์ที่มีให้สำหรับโหมดการเล่นเกมและโหมด PC โดยเฉพาะ ทำให้การประมวลผลเป็นไปอย่างเร็วขึ้น ลดอาการหน่วงและเหมาะกับฮาร์ดแวร์ของเกม คุณควรแน่ใจว่าจอเกมของคุณมาพร้อมกับโหมดเหล่านี้

เชื่อมต่อเข้ากับโลกของเกม


จอปกติอาจมีแค่ DisplayPort หรือ HDMI อย่างละหนึ่ง ซึ่งไม่เหมาะสมสำหรับการเล่นเกมอย่างมาก เพราะจอเกมควรมี HDMI Port อย่างน้อย 2.0b DisplayPort และ USB ports เพื่อเชื่อมต่ออุปกรณ์เช่นตัวควบคุมเกม และแน่นอนจอเกมจะมาพร้อมชุดลำโพงในตัวที่สามารถเสียบฟังได้ เพราะเสียงเป็นปัจจัยสำคัญในการเล่นเกม 

ไม่ได้ดีแต่ในโฆษณา


ทั้งหมดที่กล่าวมาทำให้เห็นภาพว่า เหตุใดจอเกมถึงมีชื่อเรียกเฉพาะเจาะจงเพราะจอเกมถูกสร้างมาเพื่อตอบโจทย์การเล่นเกมโดยเฉพาะเช่น panels ที่รองรับการตอบสนองและการรีดเฟรมเรทขั้นสูงลดอาการหน่วงและทำให้ภาพประมวลผลได้อย่างลื่นไหล มาพร้อมชุดลำโพงในตัว แถมยังสามารถนำเสนอภาพด้วยสีที่ถูกต้องและโหมด HDR ที่จะไม่มีผลกระทบต่ออาการภาพหน่วง ผู้ผลิตที่ดีนั้นจะไม่เพียงแต่ใส่คำว่า จอเกม เพื่อการโฆษณาเท่านั้น แต่จะสร้างจอเกมที่มาพร้อมด้วยคุณสมบัติที่จะสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้เล่น


การใช้จอปกติที่ราคาย่อมเยาก็เหมือนกับการซื้อรถอีโคคาร์ที่สามารถขับได้แต่ไม่สามารถลงแข่งได้ ซึ่งการใช้งานจะไม่สร้างความพึงพอใจให้กับคุณ ทำให้คุณเสียทั้งเงินและเวลา ฉะนั้นควรคิดให้ดีก่อนตัดสินใจ

 

บทความนี้เป็นประโยชน์กับท่านหรือไม่?

ใช่ ไม่

ติดตามบทความของเรา

คอยติดตามการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ของเรา ข่าวที่จะเกิดขึ้น และสิทธิประโยชน์พิเศษอีกมากมาย

ติดตาม
TOP